ความรู้จะถูกถอดถอนออกไปจากประชาชาตินี้ในยุคสุดท้ายได้อย่างไร?

ความรู้ถูกถอดถอนออกไปจากประชาชาตินี้ในยุคสุดท้ายได้อย่างไร?

ในยุคสุดท้ายคือช่วงเวลาที่ใกล้จะถึงวันกิยามะฮฺ วันแห่งการพิพากษา อัลลอฮฺจะทรงถอดถอนความรู้ออกจากบ่าวของพระองค์ ดังที่อัลหะดีษที่ถูกต้องหลายๆบทได้บอกเอาไว้ และมันคือหนึ่งในสัญญาณของวันกิยามะฮฺ ดังที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวไว้ในหะดีษเศาะเหี๊ยะหฺบทหนึ่งว่า”แท้จริงอัลลอฮฺจะมิทรงถอดถอนความรู้(ศาสนา)ออกจากตัวบ่าวของพระองค์ แต่ทว่าพระองค์จะทรงถอดถอดความรู้(ศาสนา)ออกจากประชาชาตินี้ด้วยการปลิดชีวิตบรรดาผู้รู้ จนกระทั่งเมื่อไม่มีผู้รู้หลงเหลืออยู่บนโลกนี้แม้แต่ผู้เดียวอีกแล้ว ผู้คนก็จะพากันแต่งตั้งพวกผู้นำที่โง่เขลาขึ้นมา และเมื่อพวกเขาถูกถาม(ปัญหาศาสนา)พวกเขาก็จะตอบปัญหาโดยไม่มีความรู้ ซึ่งทำให้พวกเขาหลงผิด และทำให้ผู้อื่นหลงผิดไปด้วย” บันทึกโดยอิมามบุคอรีย์และมุสลิม

และการถอดถอนความรู้ศาสนาออกจากประชาชาตินี้แบ่งออกเป็น สามระยะด้วยกันดังนี้

ระยะที่หนึ่ง
ความเกรงกลัวอัลลอฮฺจะถูกถอดออกจากหัวใจของบรรดาผู้รู้ส่วนมาก แต่ความรู้ศาสนายังคงอยู่กับพวกเขาโดยจะยังถูกถ่ายทอดและเผยแผ่ออกไปไม่ว่าจะเป็นการบรรยาย, การสอนในวงวิชาการ,ในห้องเรียน ฯลฯ สรุปคือ ความรู้ศาสนายังคงมีอยู่แต่ความเกรงกลัวอัลลอฮฺจะหายไปจากหัวใจของผู้รู้ส่วนมาก เว้นแต่ผู้รู้ส่วนน้อยที่ยังคงมีความเกรงกลัวอัลลอฮฺอยู่ในหัวใจอย่างแท้จริง ซึ่งบรรดาผู้รู้เหล่านี้คือส่วนหนึ่งจากกลุ่มชนผู้ได้รับความช่วยเหลือ(อัฏฏออิฟะฮฺ อัลมันศูเราะฮฺ)ในยุคใกล้วันกิยามะฮฺ (ขอให้เราทั้งหลายได้เป็นส่วนหนึ่งจากพวกเขาด้วยเถิด)

ระยะที่สอง
ความรู้ศาสนาจะถูกถอดถอนออกจากประชาชาตินี้ด้วยการเสียชีวิตของบรรดาผู้รู้
ในระยะนี้ความรู้ศาสนาก็จะถูกอัลลอฮฺเรียกกลับคืนสู่พระองค์ด้วยการปลิดชีวิตบรรดาผู้รู้ในประชาชาตินี้ ดังนั้นบรรดาผู้รู้ที่แท้จริงจะหลงเหลืออยู่น้อยจนกระทั่งไม่หลงเหลืออีกเลย ส่วนนักอ่านตำราศาสนาและผู้ที่มีตำราศาสนาตุนเก็บไว้ที่บ้านและที่ทำงานของพวกเขาจะมีมากมาย แต่ทว่าหลังจากอ่านตำราแล้วพวกเขาเหล่านี้กลับมีความเข้าใจศาสนาที่ถูกต้องแท้จริงเพียงน้อยนิดเท่านั้น เพราะการมีความรู้ความเข้าใจศาสนาอย่างแท้จริงนั้นจะได้มาโดยวิธีการศึกษาร่ำเรียนและรับการถ่ายทอดจากบรรดาผู้รู้ที่แตกฉานอย่างแท้จริง ซึ่งในยุคใกล้วันกิยามะฮฺผู้รู้ที่แท้จริงนั้นจะหาได้ยากจนแทบจะไม่หลงเหลืออยู่อีกเลย ส่วนบรรดานักอ่านตำราศาสนาจะมีมากมายดาษดื่น ดังนั้นบรรดานักอ่านเหล่านั้นก็จะตอบปัญหาศาสนาให้แก่ผู้คน โดยที่พวกเขาคิดว่าตนเองนั้นคือผู้รู้เพียงเพราะการอ่านตำราแต่ทว่าไม่ได้รับความรู้และร่ำเรียนมาจากผู้รู้ที่แตกฉานอย่างแท้จริง เป็นเหตุให้พวกเขามีความผิดพลาดในการตอบปัญหาศาสนา ดังที่ท่านนบีได้กล่าวว่า “และผู้คนก็จะแต่งตั้งผู้นำที่โง่เขลาขึ้นมาและเมื่อพวกเขาถูกถามปัญหาศาสนา พวกเขาก็จะตอบปัญหาโดยไม่มีความรู้ ซึ่งทำให้พวกเขาหลงผิด และทำให้ผู้อื่นหลงผิดตามไปด้วย”

ระยะที่สาม(ระยะสุดท้าย)

อัลกุรอานจะถูกถอดถอนออกจากบ่าวของพระองค์ในประชาชาตินี้ โดยอัลลอฮฺจะทรงปลิดชีพบรรดามุสลิมและโลกใบนี้จะไร้ซึ่งมุศหัฟ(คัมภีร์อัลกุรอาน) ดังนั้นอัลกุรอานจะไม่หลงเหลืออยู่บนโลกนี้อีกต่อไป

วัลลอฮฺ อะอฺลัม

สรุปจากตำรามุฮาเฎาะรอต ฟิล อะกีดะฮฺ วัดดะอฺวะฮฺ ของ ชัยคฺศอลิหฺ อัลเฟาซาน เล่มที่ 2 หน้าที่ 248-249 จากหัวข้อที่ 27 ว่าด้วยการส่งเสริมให้แสวงหาความรู้ศาสนาและแจ้งให้ทราบถึงความประเสริฐของบรรดาผู้รู้ศาสนา

เขียนโดย อ.ยะห์ยา หัสการบัญชา